God Of War 2


ประวัติ God of wor Kratos

กล่าวถึง Kratos ชายผู้ภัคดีต่อสปาร์ด้าด้วยฝีมือในการรบที่โหดและไร้ปราณีทำให้เขาเป็นที่หวาดกลัวต่อทุกคนแต่เขาก็ยอมสยบเพียงแต่กับถรรยาและลูกของเขาเท่านั้น จากนั้นทางสปาร์ด้าได้มีคำสั่งให้ Kratos ออกรบกับพวกบาบาเรียนทางภาคตะวันออกแต่เขาเกิดพลาดท่าและกำลังจะพ่ายแพ้สงครามในขณะนั้นเขาก็ได้ร้อขอกับ Ares เทพเจ้าสงครามและจะถวายความภัคดีถ้าสงครามครั้งนี้มีชัยชนะ คำขอร้องเป็นผลพวกบาบาเรี่ยนพ่ายแพ้สงครามยับเยินและทำให้ Kratos ต่องเป็นทาศของ Ares อย่างจงรักภัคดี
ในเวลาต่อมา Kratos ได้มาออกรบและทำลายหมู่บ้านนึงตามคำสั่งด้วยความเข้าใจผิดเหยื่อแห่งสงครามครั้งนี้สองคนสุดท้ายกลับเป็นภรรยาและลูกของเขา ผลของบาปที่เขากระทำลงไปทำให้จิตใจของ Kratos แตกสลายตายทั้งเป็นและเถ้ากระดูกของลูกเมียของเขาก็ได้ตราบาปที่ร่างกายของ Kratos เป็นแถบแดงๆตามตัวทำให้เขามีความโหดเหี้ยมและทำลายล้างทุกอย่างมากขึ้น ทำให้ Kratos ได้ตัดขาดต่อความภัคดีต่อ Ares และพยายามที่จะเดินทางเพื่อหนีบาดแผลในจิตใจ แต่โชคชะตาทำให้เขาต้องพบกับ Ares อีกครั้งแต่ครั้งนี้ไม่ใช่ในฐานะผู้ภัคดีแต่หากเป็นศัตรูที่ต้องมากำจัดตามคำขอร้องจากทวยเทพแห่งโอลิมบัสเพื่อแลกกับตราบาปที่เขาเคยก่อขึ้นมาทั้งหมด
หลังจาก Kratosกำจัด Ares ลงได้ที่เอเธนส์จนได้กล่องแพนโดร่ามาแต่ทวยเทพกลับไม่ทำตามสัญญาที่จะปลดปล่อยบาปของเขาทำให้ Kratos เสียใจพยายามฆ่าตัวตายแต่ทวยเทพกลับมอบภาระใหม่แก่เขาโดยให้ Kratos ขึ้นนั่งบัลลังก์เทพเจ้าแห่งสงครามแทน Ares ต่อไป ......

หลังจากที่ Kratos จัดการเทพแห่งสงครามคนก่อนและนั่งแท่นบัลลังก์เทพแห่งสงครามแทนแต่ด้วยความจงรักษภักดีที่มีต่อสปาร์ด้าทำให้เขาเกิดความทะเยอทะยานที่จะนำรัฐสปารด้าครอบครองโลกทั้งโลกเอาไว้สร้างความไม่พอใจแก่ทวยเทพแห่งโอลิมบัส ทำให้อาเธน่าต้องเข้สมาไกล่เกลี่ยแต่เขากลับไม่สนในและมุ่งที่จะปีนขึ้นสู่จุดสูงสุดแห่งโอลิมบัสแห่งความทะเยอทะยานต่อไป


ประวิติ God of wor Kratos

God Of War 2

เริ่มต้นเข้ามาด้านในตัวตึกเรียนรู้การบังคับตัวละครเข้าไปด้านในจนพบเจ้ารูปปั้นยักษ์โคโรซัสโดดลงไปด้านล่างเพิ่อจัดการฟันที่มือมันจนมันมึนงงแล้วโดดขึ้นไปทางซ้ายเพื่อใช้หน้าไม้ยิงหินใส่มันแล้วใช้หน้าไม้ยิงตัวเองขึ้นไปที่หัวของมันแล้วกดปุ่มตามเพื่อโจมตีมันแล้วมันจะจับเหวียงออกไป จากนั้นเดินเข้าไปด้านในปีนขึ้นด้านบนไปตามทางจนพบ โคโรซัส อีกครั้งนึงเข้าไปจัดการมันเหมือนเดิมเมื่อมันชะงักก็กดปุ่มคำสั่งตามจัดการมันและมันก็จะเหวียงกระเด็นไปอีกครั้งนึง เข้าไปด้านในตัวตึกแล้วเลือนแท่นหินมาทับสวิตซ์แล้วกด R1 ค้างแล้วกด X เพื่อทีบมันผ่านประตูไปแล้วกลิ้งตัวตามไปอีกฝั่งประตูเข้าไปด้านในขึ้นลิฟท์ขึ้นไปด้านบนจัดการดวงตาโคโรซัสที่หน้าต่างจนหน้าต่างพังจะพบว่ามีดาบลงมาปักที่พื้นเข้าไปตามทางจนถึงที่ที่ดาบ Blade of Olympus แล้วเจ้าโคโรซัสจะตามออกมาจัดการมันจนมึนงงแล้วหาโอกาสไปกด R1 ที่ดาบเพื่อดูดพลังงานมาทำไปเรื่อยๆจนสามารถดึงดาบออกมาใช้ได้แล้วเอาไปจัดการฟันโคโรซัสเพื่อทำลายตัวมันสามารถเข้าไปด้านในตัวมันได้
ภายในตัวโคโรซัสจะเป็นโครงไม้ขึ้นไปด้านบนเรื่อยๆจนพบแกนพลังงานที่เรืองแสงให้หมดจนถึงชั้นบนสุดที่ส่วนหัวปีนเชือกขึ้นไปแล้วสับสวิตซ์ให้แกนไม้ลงไปด้านล่างแล้วลงไปฟันให้แกนไม้มันแก่วงไปมาแล้วปีนกลับด้านบนปีนเชือกแล้วรอจังหวะแกนไม้แก่วงมาบังพลังแสงไว้จะทำให้ไต่เชือกผ่านไปได้ไปตามทางจนถึงแกนหลักทำลายมันแล้วหนีออกมาทางปากเจ้าโคโรซัสก็พังทลายลง เมื่อKratosลงมาถึงพื้นเขาได้พบกับเทพซูสและเกิดการต่อสู้กันแต่ Kratos สู้ไม่ได้และได้ถูกจับส่งลงนรกแต่เหล่าทวยเทพก็ได้พลังแก่เขาอีกครั้งทำให้เขาสามารถขึ้นมาบนโลกได้อีกครั้ง เมื่อขึ้นมาแล้วจะพบกับสัตว์พาหนะเปกาซัสเพลิงที่ใช้ขี่เดินทางต่อไปได้

ตอนนี้ต้องขี้เจ้าเปกาซัสจัดการศัตรูไปจนถึงปลายทาง(ซึ่งก็คือไอ้ฉากขี่มอไซดของไอ้ Ghost Rider น่านแหละ)

เมื่อเข้ามาถึงถ้ำน้ำตกก็จะพบรูปปั้นหินจับเปกาซัสเอาไว้ เดินทางเข้าไปด้านในจนทะลุออกมาอีกด้านจัดกาศัตรูและทำลายนั่งร้านแล้วปีนขึ้นด้านบนต่อแล้วโหนตัวลงด้านล่างจะพบคนที่โดนมัดอยู่เมื่อคุยจบโจมตีเขาจะตกลงไปด้านล่างแล้วจะสามารถเกาะเชือกลงด้านล่างได้แล้วปีนขึ้นด้านบนเข้าไปในถ้ำต่อจัดการพวกเมดูซ่าให้หมดแล้วเข้าสู้ถ้ำ Typhan Cave

Typhan Cave
เข้าไปด้านในจนพบหัวของรูปปั้นที่คอยเป่าลมขัดขวางพยายมหลบแล้วขึ้นตรงแท่นหินใกล้ๆหน้ามันแล้วโดยไปฟันตามันจะได้รับธนู Typhan Bane มาใช้ให้กดยิงใส่ตามันแล้วย้อนกลับมาจัดการศัตรูให้หมดแล้วใช้ธนูยิงใส่หิมย้อยจนสามารถโดดโหนตัวผ่านไปได้ไปตามทางจะมาออกตรงที่ชายแก่โดนมัดอยู่ยิงธนูใส่เขาแล้วจะได้รับพลัง Rage of Titans มาเดินกลับไปจัดการศัตรูให้หมดแล้วโดดขึ้นด้านบนจะพบทางขาดที่มีโซ่ที่สามารถเกาะไปได้เกาะเชือกข้ามไปอีกด้านลงมาด้านล่างแล้วใช้พลัง Rage of Titans ทำลายประตูสัญญลักษณ์เข้าไปต่อจนถึงทางกลับมาที่รูปปั้นทับเปกาซัสอยู่ใช้พลัง Rage of Titans โจมตีใส่นิ้วของรูปปั้นทำให้มันปล่อยเปกาวัสออกมาแล้วสามารถเดินทางต่อได้ ขี่เปกาซัสจัดการศัตรูแล้วพบกับบอส ทหารขี่นกยักษ์จัดการแล้วก็จะถึงที่หมาย

Tample of Lahkesis
เมื่อมาถึงแล้วปีนขึ้นด้านบนจัดการศัตรูให้หมดแล้วแบกศพทหารแถวๆนั้นมาที่ลิฟท์แล้วลงล่างต่อวางศพทหารลงบนแท่นสวิตซ์ประตูแล้วดึงสวิตซืประตูอันที่ด้านในไปด้วยแล้ววิ่งผ่านทั้ง 2 ประตูเข้ามาด้านในไปตามทางจัดการศัตรูแล้วทำลายผนังเอาแท่นหินออกมาเลื่อนมาทำทางโดดขึ้นตรงกำแพงจนพบจุดเซฟลงด้านล่างแล้วปีนเกาะพนังจนถึงด้านบนสุดแล้วลงลืฟท์ไปด้านล่างเข้ามาด้านในจัดการศัตรูพวกไซเรนแล้วกด O เพื่อทำลายมันๆจะส่งเสียงไปทำลายประตูจนพังเข้าไปด้านในจะพบโซ่ขนาดใหญ่ตรงทางออก

Steed of time
เข้าไปแล้วปีนไปจนถึงบนสุดที่ลานกว้างผ่านประตูที่ล็อคอยู่ไปสับสวิตซ์แล้วย้อนมาไต่เชือกที่ออกมาไปอีกด้านนึงเข้าไปที่หน้าประตูพบบอส จัดการแล้วจะได้กุญแจ Horsf Keepers มาแล้วเปิดประตูตรงหน้าเข้าไปตามทางไปตามทางแล้วโหนเชือกกลับมาที่ลานกว้างด้านหน้าอีกครั้งแล้วใช้กุญแจเปิดประตูเข้าไปด้านในจะได้สกิลสายฟ้า Cronos Rage มาใช้จัดการศัตรูให้หมดแล้วไปตามทางจนถึงจุดเซฟ
เดินเข้าไปต่อตามทางยาวจนถึงแท่นคันโยกสีโยกทีล่ะสีแล้วรีบไปใช้กุญแจปลดล็อกจะทำให้นกบินออกไปเป็นที่เกาะโหนตัวได้จัดการโยกให้ครบทุกอันแล้วปลดล็อกให้หมดแล้วกลับมาที่แท่นตรงกลางจะสามารถใช้แส้บังคับม้าดึงโซ่ได้จากนั้นวิ่งกลับมาที่เกาะ Temple of Lahkesis อีกครั้ง

Temple of Lahkesis
เข้าไปตามทางจนถึงสวนน้ำแล้วปีนขึ้นด้านบนแล้วไต่ผนังลงไปชั้นล่างเรื่อยๆจนถึงประตูบานใหญ่เข้าไปด้านในจะพบรูปปั้นอาเธนน่าขนาดใหญ่ ดึงสวนต้นไม้กลางน้ำจะพบทางลงใต้น้ำจะสามารถดำมุดเข้ามาด้านในลูกกรงได้จะได้ Amulet of the Fates มาใช้จะสามารถสโลว์เวลาให้ช้าลงได้ด้วยการกด L1 ค้างแล้วกด R1 ในบริเวณที่มีลูกแก้วเขี้ยวดำน้ำกลับออกมาแล้วเหยียบสวิตซ์ให้พื้นลอยขึ้นมาแล้วสโลว์เวลาก่อนวิ่งไปที่แท่นแล้วโดดขึ้นบนจนได้แล้วมากดสวิตซ์ที่พื้นอีกครั้งแล้วทำเวลาสโลว์ก่อนวิ่งขึ้นไปที่มือของรูปปั้นได้ทำลายหัวมันแล้วจะพบทางไปที่ด้านหลังต่อได้ โดดลงด้านล่างจัดการศัตรูให้หมดแล้วไปต่อด้านในจัดการศัตรูให้หมดแล้วขึ้นไปดันรูปปั้นมาบังแสงจากตารูปปั้นโดยที่อันขวาต้องเอาขึ้นไปบนแท่นแล้วยกขึ้นบนก่อนแล้วจึงถีบลงมาด้านล่าง (R1 + X) จะสามารถทำลายรูปปั้นลงได้และบาเรียจะหายไปสามารถไปต่อได้ เข้ามาในเขต The Bog of the Forgotten ด้านในพบ Boss จัดการแล้วจะได้ ค้อน Babarian มาเป็นอาวุธแล้วเดินทางต่อ

Tample of Euryale
เข้ามาที่ประตูหน้ายังไม่สามารถเข้าไปได้ให้ไปทางขวาก่อนเก็บกุญแจจากศพทหารมาใช้กับประตูด้านซ้ายเข้าไปใน Ruin of the forgotten จะพบเจ้า Cyclops ออกมาจัดการให้หมดเข้าไปตามทางจนถึงห้องวงกลมด้านในจัดการศัตรูให้หมดแล้วทำลายพนังทั้ง 2 ด้านจะพบทางน้ำไหลให้เอาศพทหารทางขวาใส่ในน้ำให้ลอยไปทางซ้ายแล้วเอาศพทับสวิตซ์ทางซ้ายไว้แล้วมาเหยียบสวิตซ์ทางขวาเพื่อเปิดประตูด้านหน้าไปต่อ ผ่านแม่น้ำเลือดไปจนถึงอีกฝั่งจัดการเจ้าปีศาจหินแล้วทำลายต้นไม้ไต่พนังไปต่อไต่เชือกไปอีกฝั่งใช้สโลว์วิ่งผ่านเฟืองหมุนผ่านกับดับแสงแลัวทำลายพนังจะพบทางไปต่อจะออกมาที่หน้าทางเข้า Ruin of the forgotten อีกครั้ง สังเกตุดูจะพบแท่นหิน 2 อันอยู่ให้ดันมาที่ระเบียงทางขวาทั้ง 2 อันน้ำหนักจะทำให้ระเบียงเอียงไปอีกด้านจนสามารถยกได้จะมีทางไปต่อได้ เข้ามาด้านในสำรวจศพทหารแล้วนำมาใส่ในสายพานทางขวาเฟืองจะโดนทำลายสามารถเข้าไปได้พบ Boss เซอร์เบอร์รัส จัดการแล้วจะได้ปลอกแขนสะท้อนพลัง Goldden Fleece ซึ่งสามารถสะท้อนพลังไฟได้โดยการกด L1 ตอนใกล้ๆตัว สะท้อนลูกไฟจนพบทางออกแล้วกลับมาที่ประตูทางเข้าอีกครั้ง ใช้ Goldden Fleece สะท้อนพลังแสงทำให้ประตูกลายเป็นหินทำลายเข้าไปด้านในได้ เข้าไปจนพบลิฟท์ที่ทหารหักคันโยกเอาไป เดินทางตรงไปต่อ ปรับลิฟท์ 2 ตัวให้เท่าๆกันลิฟท์ทางขวาจะสามารถโดดเกาะปีนไปต่อด้านบนได้ผ่านจุดเซฟเข้าไปด้านใน ในห้องเกาะพนังหลบกับดักที่เพดานไปอีกด้านแล้วสับสวิตซ์ก่อนเข้าไปแล้วรีบไปเปิดประตูก่อนกับดักจะมาถึงตัว เข้าไปด้านในพบ Boss Euryale

จัดการแล้วจะได้หัวมันมาใช้ ใช้ทำให้ศัตรูเป็นหินได้ จัดการศัตรูให้หมดแล้วออกประตูไป เข้าไปด้านในจนพบแท่นขนาดใหญ่ซึ่งต้องหมุนทกแนให้ขึ้นมาด้านบนแล้วมุดน้ำ(สามารถกด R1 เพื่อพุ่งตัวได้) ไปอีกอันเรื่อยจนครบทุกอันแล้วใช้สโลว์ก่อนโหนตัวไปตามเสาที่ขึ้นมาจนขึ้นไปด้านบนได้ เข้าไปด้านในจัดการศัตรูให้หมดแล้วเข้าไปด้านในต่อ
Catacombs of the fallen - Courtyayd of the Atropos
เข้ามาแล้วขึ้นไปตามบันไดวนจนถึงด้านบนจะมาออกที่หน้ารูปปั้น Destiny Atrium อีกครั้งแล้วเข้าประตูทางซ้ายใช้ Goldden Fleece สะท้อนพลังไฟทำลายทางเพื่อไปต่อจนถึง Courtyayd of the Atropos เข้าไปด้านในจัดการศัตรูให้หมดแล้วใช้แท่นต่อตัวกับพื้นยกตัวปีนขึ้นด้านบนต่อไปตามทางจนสามารถดันหินลงมาด้านล่างหน้ารูปปั้นได้ แล้วลากแท่นหินมาใช้ปีนไปที่บันได้ที่สูงเพื่อขึ้นด้านบนแล้วเข้าประตูไปต่อแล้วโหนตัวไปจนถึงด้านบนจัดการศัตรูแล้วมายืนที่สวิตซ์ตรงหน้าผาจะมีรากไม้งอกออกมาแล้วใช้สโลว์แล้วรีบวิ่งไปจนถึงประตูทางเข้าอีกฝั่งเข้าไปพบ Boss จัดการแล้วจะได้โล่ Shield of Perseus มาแล้วเกาะโซ่ลงมาด้านล่างแล้วไปใช้โล่กับรูปั้นที่ชั้นบนทางขวาบนแล้วดันมันลงมาด้านล่าง ดันมาใส่แท่นตรงกลางแล้วหมุนคันโยกให้โล่ขึ้นไปด้านบนกั้นแสงเอาไว้ด้านนึงแล้วรับปีนึ้นไปใช้ Goldden Fleece กด L1 กับแสงตาอีกด้านจะสมารถทำลายรุปปั้นและบาเรียจนเดินทางต่อไปได้ เข้าไปด้านในปีนไปจนถึงด้านบนลานกว้างดึงหอกออกมาจากซากนกจะได้หอก Spear of Destinty มาใช้แล้วลากแท่นลูกแก้วสีเหลืองมาที่แท่นหมุนๆเปลี่ยนทางให้มันหันไปทางขวาก่อนแล้วลากลับไปที่เดิมแล้วไปเดินไปทางขวาต่อทีทางขาดจะสามารถใช้สโลว์ในการวิ่งผ่านไปได้ จากนั้นต้องกด R1 เพื่อดหนเสาที่กำลังพังไปจนถึงทางเข้าถ้ำเข้าไปด้านในจัดการศัตรูให้หมดแล้วไปที่ทางออกถ้ำจะพบจุดเซฟและทางขาด ถ้าแผ่นค้างจะค้างตรงนี้คับ เข้าไปจะพบกับ Icarus และจะเกิดการต่อสู้กับเขาจนตกลงมาด้านล่างจนได้ปีก Wing of Icarus มาใช้บินโดยการกด X 2 ครั้ง

Face of Atlus
ปีนขึ้นด้านบนไต่กำแพงแล้วโดดไปตามแท่นกลมๆที่ลอยอยู่แล้วร่อนลงมาตรงกับปากถ้ำด้านล่างจัดการศัตรูให้หมดแล้วดึงหินที่ปิดทางออกมาก่อนแล้วค่อยลากมันเข้าไปใช้เป็นที่เหยียบขึ้นด้านบนได้เข้าไปในลานลาวาจัดการกับเจ้าโกเลมวัวลาวาสลับกับโดดเกาะพนังเมื่อพื้นหายไปจัดการแล้วใช้หินที่ได้จากตัวมันเอาเป็นที่เหยียบขึ้นด้านบนต่อได้ เดินชิดกำแพงที่จุดเซฟด้านซ้ายแล้วพังพนังให้หินลาวากลิ้งออกมาขึ้นไปยืนบนหินแล้วโดดโหนตัวข้ามไปอีกฝั่งเกาะเพดานไปต่อตามทางจนกลับมาที่ห้องแรกแล้วฟันหินบนเพดานลงมาโดนสวิตซ์ด้านล่างทำให้มีลมพ่นออกมาจากด้านล่างแล้วจะทำให้ใช้ปีกร่อนออกไปด้านนอกได้ ใช้ปีกร่อนไปตามแท่นวงกลมแล้วโหนขึ้นไปด้านบนจนถึงที่ที่มีแท่นหิน 2 ก้อนอยู่ให้ดันทั้ง 2 ก่อนมาที่ทางลาดขึ้นด้านล่างแล้วเอาก้อนแรกดันลงมาด้านล่างแล้วจะดันอีกก้อนทับซ้อนกันได้แล้วดันมาที่ทางสูงๆด้านขวาแล้วดึงหินด้านบนไปใช้ต่อตัวไปด้านบนได้ จากนั้นไต่พนังแล้วหลบหินที่ร่วงลงมาจนถึงด้านบนทำลายโซ่แล้วจะได้พลังแผ่นดินไหว Atlus Quake มาใช้แล้ว Atlus จะพาขึ้นไปสู่ด้านบนต่อไป

Great Chasm
เข้าไปจัดการศัตรูแล้วดึงคันโยกแล้วเข้าห้องทางซ้ายเก็บคันโยก Crank Handle จากศพทหารแล้วดึงแท่นหินจากแท่นตรงกลางเพื่อปิดสวิตซ์กับดักหนามแล้วหมุนคันโยกอีกครั้งเพื่อเลื่อนทางออกจนพบ แล้วจะออกมาที่ลานกว้างโดดขึ้นไปด้านบนแล้วใช้คันโยกโยกปิดไฟที่พุ่งออกมาจากพนังแล้วใช้สโลว์บินร่อนข้ามไป เข้าไปตามทางเข้าไปสับสวิตซ์ให้ลูกกรงเปิดออกแล้วใช้ลมที่ออกมาจากพื้นแล้ววิ่งย้อนกลับมาเพื่อพุ่งตัวใช้ปีกบอนข้ามลูกกรงด้านบนได้ แล้วดันหินเข้าไปด้านในแล้วดันไปทางขวาจะพบคนนั่งทับสวิตซ์อยู่อุ้มมันออกมาแล้วใช้หินทับสวิตซ์แทนแล้วอุ้มมันมาที่แท่นหนังสือตรงกลางบังคับให้มันอ่านหนังสือแล้วจะได้ กุญแจ Key of The Ram มาจากประตูแล้วเปิดออกไปต่อจะออกมาที่ลานกว้างแรกแล้วใช้Key of The Ram กับประตูที่เห็นไปต่อได้ ในห้องกับดักต้องจัดการศัตรูให้หมดก่อนกับดักจะมาถึงตัวแล้วเข้าไปตามทางจนถึง สวนแห่งเทพ ทำลายกำแพงแล้วเกาะพนังไปตามทางจนถึงทางเข้าด้านในจนพบประตูที่นี่ต้องใช้ไฟทำลายแม่มดที่ออกมาเท่านั้นเมื่อเกทเต็ทพลังก็จะเปิดเข้าไปตามทางจนถึงห้องน้ำแข็ง
ที่ห้องน้ำแข็งต้องปีนพนังขึ้นไปทำลายหินที่เกาะบนเพดานให้แสงส่งมาถึงแล้วลงไปทีรูปปั้นนกตรงกลางสับสวิตซ์ด้านหลังให้มันพ่นไฟไปละลายน้ำแข็งตรงช่องด้านหน้าจะพบแท่นกระจกอยู่ให้ลากออกมาแล้วเอามาสะท้อนที่แสงทางด้านล่างเพื่อให้แสงส่องไปที่จุดวงกลมหน้ารูปปั้นนกด้านล่างแล้วหมุนคันโยกทั้ง 3 อันเพื่อจัดเรียงเลนท์ทั้ง 3 แถวให้ไปที่วงกลมนั้นทำให้แสงไปละลายน้ำแข็งที่รุปปั้นนกได้จะสามารถหมุนให้มันพ่นไฟละลายน้ำแข็งที่ประตูไปต่อได้เข้าไปด้านในจนถึงลิฟท์ให้ปีนไปด้านบนทำลายรังแตนให้หมดก่อนแล้วค่อยลงมาหมุนคันโยกเอาตะขอลงมาแล้วเกาะขึ้นด้านบนแล้วลงไปตามทางลากรูปปั้นลูกแก้วเขียวไปที่ประตูทางเข้าแล้วจะพบตาแก่ที่พยายามหนีโดยดดลงไปในเหว จากนั้นเอารูปปั้นไปค้ำประตูไว้ก่อนสับสวิตซ์ประตูให้ลงมาค้ำกับรูปปั้นแล้วใช้สโลว์วิ่งเข้าไปจับตากแก่ด้านใน(R1)ก่อนที่มันจะโดดลงไป แล้วลากมันมาอ่านหนังสือที่แท่นตรงกลางจะได้กุญแจ Worrior Skull มาจากประตูแล้วเปิดประตูเข้าไปต่อหมุนคันโยกให้ลมออกมาแล้วร่อนขึ้นไปเกาะเพดานเกาะไต่ข้ามไปอีกฝั่งจนถึงลานกว้างแรกอีกครั้งจัดการศัตรูให้หมดแล้วใช้กุญแจ Worrior Skull เปิดประตูทางซ้ายบนไปต่อได้ ไปต่อจนพบแท่นหมุนกับดักให้ใช้ปีกร่อนหลบไปจนถึงด้านในจนถึงห้องฟินกซ์
ที่ห้องฟินกซ์ไปทางซ้ายก่อนจะพบกกับดักหนามอยู่สับคันโยกแล้วไปเพรช Hall of Boreas ที่ศพทหารมาพร้อมกับทำลายพนังตรงนั้นเพื่อให้เห็นลูกแก้วสโลว์ออกมาแล้วกะจังหวะสับคันโยกเอาหนามลงแล้วใช้สโลว์ไปหมุนสวิตซืประตูแล้วรีบเข้าไปที่ประตูด้านในขวาให้ทันเข้าไปจนถึงห้องไฟลาวา ที่นี่จะมีคลื่นไฟออกมาตลอดให้ดึงเสาหินทางซ้าของทางเข้าดันเข้าไปด้านในเพื่อใช้มันบังไฟได้สับสวิตซ์ตรงกลางห้องแล้วดันแท่นหินไปทับสวิตซ์ทางซ้ายเพื่อเปิดประตูด้านบนแล้วมายืนเหยียบสวิตซ์ทางขวาเพื่อโหนตังขึ้นไปด้านบนแล้วดันโถลงมาที่หน้าประตูทางเข้าได้แล้วดันโถให้มาที่ช่องตรงกลางแล้วมาสับสวิตซ์กลางห้องเพื่อเอาโถไปใส่ที่ลาวาด้านหน้าจะทำให้นกฟินิซ์พุ่งขึ้นไปด้านบนขึ้นบันไดตามขึ้นไปด้านบนแล้วใช้ Hall of Boreas ที่ประตูหน้าคนเพื่อออกไปด้านนอกที่ลานกว้างอีกครั้งแล้วไต่โซ่ขึ้นไปด้านบนเพื่อเป่าแตร์ลมนกฟินิกซ์จะบินไปเกาะที่พื้นที่กลางฉาก แล้วไปปีนสาที่พังไปด้านบนได้แล้วเข้าไปด้านใน สับสวิตซ์ให้ลิฟท์ด้านซ้ายปิดจะทำให้สามารถปีนขึ้นไปด้านบนแล้วตัดโซ่เพื่อเอารูปปั้นหินออกมาได้ สับสวิตซ์ให้เปิดออกอีกครั้งแล้ว ดันรูปปั้นไปค้ำประตูลิฟท์เอาไว้ก่อนแล้วสับคันโยกให้ลิฟท์ขึ้นไปค้างอยู่มุดเข้าไปในลิฟท์แล้วลากเอารูปั้นหินเข้าไปในลิฟท์เพื่อขึ้นไปด้านบนพร้อมๆกันแล้วใช้รูปปั้นต่อตัวปีนไปตัดโซ่ประตูเปิดเข้าไปได้ เข้าไปหมุนคันโยกให้แท่นด้านนอกสูงขึ้นแล้วหมุนคันโยกประตูด้านขวาออกไปด้านนอกเข้าไปพบ Boss ปลาหมึกปีศาจ เมื่อจัดการมันได้จะทำให้มีสะพานทอดไปที่พื้นลอยที่นกเกาะอยู่ได้เดินเข้าไปหานกฟินิกซ์มันจะพาไปสู่ด้านบนได้

Temple of the fates
ที่หน้าทางเข้าต้องพยายามตีระฆังให้ดังพร้อมๆกันทาง 2 ด้านโดยใช้สโลวืช่วยจะทำให้หน้ารูปปั้นร้าว แล้วลงไปหมุนคันโยกใต้น้ำเพื่อให้สามารถหมุนแท่นไปด้านตรงได้แล้วหมุนให้ไม้ไปกระแทกที่หน้ารูปปั้นเข้าไปด้านในได้จากนั้นเข้าไปทางซ้ายพบ Boss แม่มด 2 ร่างจัดการแล้วเข้าไปด้านในจัดการศัตรูไปตามทางจนถึงประตูทางเข้าหมุนที่ล็อคประตูเข้าด้านในจะพบปีศาจขนาดใหญ่ที่ถูกขังอยู่

Loom Chamber
ที่นี่ต้องพยายามใช้มีดที่มีอยู่ตรึงแขนของมันให้หมดทุกชั้นจนสามารถขึ้นไปจนถึงด้านบนสุดได้พบ Boss จัดการมันแล้วเข้าประตูด้านหลังไปจนถึงกระจกมิติด้านในสับสวิตซ์หน้าประตูแล้วกลับออกมาตรงหน้าบอสแล้วดึงเชือกที่อยู่ตรงขอบเส้นที่ 5 จากขวาจะทำให้กระจกสามารถย้อนเวลาได้เมื่อย้อนจนสุดแล้วเวลาจะเริ่มนับถอยหลังให้รับไปที่กระจกมิติให้ท้นเข้าไปด้านในพบ Big Boss Zeus

--------------------------------------THE END---------------------------------------
ขอบคุณข้อมูลจากคุณ Decibel per-oxide